วิธีการหุ้มผ้ากันไรฝุ่นบนที่นอน หมอน หมอนข้าง ผ้านวม
มีผู้ป่วยสงสัยวิธีการหุ้มผ้ากันไรฝุ่นสำหรับที่นอน เพราะผ้าที่ซื้อมาส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายผ้าปูที่นอนชนิดรัดมุม เวลาปูเสร็จด้านล่างของที่นอนส่วนที่ติดกับพื้นเตียงจะไม่มีผ้ากันไรฝุ่น กลัวว่าตัวไรฝุ่นจะเดินออกมาจากใต้ที่นอน แล้วไต่ขอบที่นอนด้านข้างขึ้นมาอยู่ด้านบนที่นอนนอกผ้ากันไรฝุ่นได้ แล้วจะทำให้อาการของโรคกำเริบได้อีก
คำตอบคือ เคยมีคนทำวิจัยเปรียบเทียบวิธีการหุ้มผ้ากันไรฝุ่นสำหรับที่นอน ระหว่างวิธีสวมรอบที่นอนทั้งบนและล่าง แล้วติดซิป(เหมือนการหุ้มหมอน) กับวิธีหุ้มแบบรัดมุม พบว่า อาการผู้ป่วยได้ผลดีไม่ต่างกันค่ะ จึงมักใช้แบบรัดมุม เพราะประหยัดเนื้อผ้า สะดวกในการผลิต ไม่ต้องติดซิปรอบ ทำให้ราคาสินค้าไม่แพงมาก และในการใช้งานจริงแบบรัดมุมก็ปูง่ายกว่าแบบสวมรอบ ซึ่งต้องยกที่นอนหนักๆทั้งหลังมาใส่ในผ้ากันไรฝุ่น
ส่วนการหุ้มหมอนและหมอนข้างนั้นไม่มีปัญหา คือ นำหมอนและหมอนข้างใส่ในปลอกผ้ากันไรฝุ่นแล้วรูดซิปปิดหมดค่ะ
เมื่อเราเลือกซื้อผ้ากันไรฝุ่นที่มีคุณภาพดีมาหุ้มที่นอน หมอน หมอนข้างแล้ว ควรปูผ้าปูที่นอน ใส่ปลอกหมอน ปลอกหมอนข้าง ทับผ้ากันไรฝุ่นอีกชั้นนะคะ เพื่อถนอมผ้ากันไรฝุ่นไม่ให้เปรอะเปื้อนง่าย
มีผลงานวิจัยถึงประโยชน์ของการป้องกันไรฝุ่นด้วยวิธีนี้ไว้มากมาย เช่น
- การใช้ผ้ากันไรฝุ่นที่มีคุณภาพดีจะสามารถกั้นสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นได้สูงกว่าการไม่ใช้ผ้ากันไรฝุ่นถึง 4 เท่า
- เมื่อใช้ผ้ากันไรฝุ่นที่มีคุณภาพดีไป 1 ปี เด็กที่ป่วยเป็นโรคหืดอาการดีขึ้น สามารถลดการใช้ยาพ่นสเตียรอยด์ลงได้ครึ่งหนึ่ง
- เด็กทารกที่มีประวัติกรรมพันธุ์เป็นโรคภูมิแพ้และมีการหุ้มที่นอนและเครื่องนอนด้วยผ้ากันไรฝุ่นที่มีคุณภาพดี จะไม่เกิดการแพ้ต่อไรฝุ่น
- หลังจากหุ้มที่นอนละเครื่องนอนด้วยผ้ากันไรฝุ่นที่มีคุณภาพดีไป 6 เดือน อาการหลอดลมไว (Airway Hyper Responsiveness) จะดีขึ้น